พิสูจน์ความคิดความอ่านของ
"ทีม – นัซมาดี มะทีม หนูจันทร์" Mr. Gay World Thailand 2023

“ทีม – นัซมาดี มะทีม หนูจันทร์” คว้าตำแหน่ง Mr. Gay World Thailand 2023 ด้วยเสน่ห์ที่เปล่งประกายเมื่อได้จับไมค์ตอบคำถามจากคณะกรรมการบนเวที ทั้งในรอบ 10 คนสุดท้าย และรอบ 5 คนสุดท้าย จนได้ชื่อว่าเป็น Mr. Gay World Thailand อีกคนที่ไม่ตายไมค์แน่นอน ดังนั้นแล้ว เราจึงอยากจะชวนทีมมาคุยเรื่องยากๆ ประเด็นหนักๆ กับเรื่อง LGBTQ+ ดูสิว่า เค้าจะทำให้เราชูป้ายคะแนน 10 10 10 ได้ไหม!?

Q: ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ Mr. Gay World Thailand 2023 มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว เป็นอย่างไรบ้าง?

A: เครียดครับ เครียดมาก ไม่อยากโกหก เพราะหน้าที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ เลยทำให้รอยต่อระหว่าง Nobody กับ Somebody ต้องใช้ Growth Mindset ในการปรับตัวค่อนข้างเยอะ จากคนที่ตื่นเช้ามา ล้างหน้า แปรงฟัน จิบน้ำอุ่น หั่นหยวกให้อาหารเป็ดไก่ ต้องกลายมาเป็นตื่นเช้า อาบน้ำ แปรงฟัน ลงรองพื้น แต่งหน้าให้ดูมีน้ำมีนวล ใส่ชุดหล่อๆ ก็ค่อนข้าง Challenge อยู่ครับ แต่โชคดีตรงที่ผมชอบการแข่งขัน โดยเฉพาะการเเข่งกับตัวเองให้เป็นเวอร์ชั่นที่น่ารักและดีกว่าวันที่ผ่านๆ มา ผมรู้สึกว่ามันเป็นความกดดันที่ได้กลิ่นความหอมหวานรออยู่ข้างหน้าครับ

Q: มีเป้าหมายอะไรบ้าง หลังจากได้รับตำแหน่งนี้แล้ว?

A: เป้าหมายปัจจุบันคือ การขอบคุณทุกๆ ภาคส่วน สปอนเซอร์ ผู้ใหญ่ใจดี ทีมงานเบื้องหลังทุกท่านที่มีส่วนให้การจัดงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผมอยากใช้พื้นที่ตรงนี้ขอบพระคุณทุกท่านอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ในฐานะผู้ดำรงตำแหน่ง Mr. Gay World Thailand 2023 ครับ หลังจากนี้ก็จะเป็นในส่วนของการเฉลิมฉลองเทศกาล Pride Month หรือที่ผมให้คำจำกัดความกับเทศกาลนี้ว่า Proud within your mind is your PRIDE ผมอยากให้การเฉลิมฉลองเป็นของทุกคน ไม่ว่าจะจำกัดตัวเองว่าอยู่ในสถานะทางเพศอย่างไร สถานะทางสังคม หรือความสามารถในการใช้ชีวิตแบบไหน ผมเชื่อว่าสังคมเรา ถ้าหากขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไป อาจจะส่งผลให้ระบบนิเวศน์รวน ไม่ต่างจากความหลากหลายทางธรรมชาติ ดังนั้น นอกจากการเฉลิมฉลองแล้ว ผมอยากให้ Pride Month เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกประจำปี ที่ให้เราทุกคนหันมาใส่ใจในสิ่งที่เราคิดว่ามันห่างไกลความสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา Happy Pride Month นะครับทุกคน

Q: งาน Pride ในฝันของคุณเป็นอย่างไร?

A: ผมมองว่ามันไม่ต่างอะไรกับการฉลองวันเกิดของตัวเองและคนในครอบครัว มันคือช่วงเวลาที่ทำให้เราตระหนักได้ว่า ถึงแม้เราจะเจอหน้าเจอตากันทุกวัน ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเข้าใจซึ่งกันและกันในทุกเรื่องที่ผ่านมา ผมอยากให้ Pride เป็นเหมือนงานวันเกิดประจำปี เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนมีความสุขด้วยกัน และก่อนที่งานเลี้ยงจะเลิกรา เรามีโอกาสได้แลกเปลี่ยนความรู้สึกที่เราเมินเฉยหรือละเลยในปีที่ผ่านมาซึ่งกันและกัน ที่สำคัญ ผมขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขกับเทศกาล Pride Month นะครับ

Q: ในเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง Pride Month คุณคิดว่าอะไรที่จะทำให้สังคมไทยตื่นตัวเรื่อง LGBTQ+ มากกว่าแค่งานอีเวนต์สนุกสนาน?

A: ”กฎหมายนอนหลับแต่ไม่ตาย!” ผมเชื่อว่าหลายคนอาจจะมองว่ากฎหมายที่เกี่ยวกับความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องไกลตัว อย่างเช่น สมรสเท่าเทียม เป็นต้น เพราะผมก็จัดอยู่ในบุคคลประเภทดัวกล่าวมาหลายปี จนได้มีโอกาสมาประกวดและได้รับฟังทัศนะจากหลายๆ คนที่มีความจำเป็นในตัวบทกฎหมายฉบับนี้ ดังนั้นผมมองว่าต่อให้เราไม่อิน! รู้สึกว่ามันไกลตัว แต่การมีฟูกไว้รองรับ มันย่อมดีกว่าตกลงมาบนพื้นคอนกรีตเสมอ เราไม่รู้ว่าอนาคตของเราจะเป็นอย่างไร ชีวิตผมได้สอนให้ผมรับมือกับความไม่แน่นอนที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ผมเลยไม่รู้ว่าวันใดวันหนึ่งผมอาจจะได้ใช้ประโยชน์ หรือคนในครอบครัว เพื่อน ผู้มีพระคุณ และคนที่ผมรักอาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้ ดังนั้น ผมเลยอยากเชิญชวนให้ทุกท่าน โดยเฉพาะพวกเราชาว LGBTQ+ ทุกคน หันมาสนใจศึกษาความสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ให้มากกว่าเดิม เพราะเราไม่สามารถปฏิเสธอนาคตได้ แต่เราสามารถเตรียมตัวเพื่อรับมือกับมันได้ และในความคิดเห็นของผม ตัวบทกฎหมายถือเป็นวิธีในการเตรียมตัวเพื่อรับมือที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ครับ